ขนมเปี๊ยะเป็นขนมที่มีต้นกำเนิดจากประเทศจีน คาดว่ามีมาตั้งแต่สมัยราชวงศ์ซาง (1600-1046 ปีก่อนคริสตกาล) โดยในสมัยนั้นขนมเปี๊ยะมีขนาดเล็กกว่าขนมเปี๊ยะในปัจจุบันมาก โดยมีขนาดประมาณเท่าเหรียญบาท
เหตุผลที่ขนมเปี๊ยะในสมัยโบราณมีขนาดเล็กกว่าในปัจจุบันนั้น สันนิษฐานว่ามาจากปัจจัยหลายประการ เช่น
- ความยากลำบากในการหาวัตถุดิบ ในสมัยโบราณวัตถุดิบในการทำขนมเปี๊ยะ เช่น แป้งสาลี ถั่วเหลือง ไข่เค็ม เป็นต้น หาได้ยากและราคาแพงกว่าในปัจจุบัน ด้วยเหตุนี้เอง ขนมเปี๊ยะในสมัยโบราณจึงมักทำด้วยแป้งข้าวเจ้าแทนแป้งสาลี และมักใช้ไส้ถั่วเขียวแทนไส้ถั่วเหลือง เนื่องจากถั่วเขียวหาได้ง่ายและราคาถูกกว่าถั่วเหลือง
- ความเชื่อในสมัยโบราณ ในสมัยโบราณ ชาวจีนเชื่อว่าขนมเปี๊ยะเป็นสัญลักษณ์ของความอุดมสมบูรณ์ ความโชคดี และความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของครอบครัว ดังนั้น ขนมเปี๊ยะจึงมักถูกนำมาใช้เป็นเครื่องเซ่นไหว้เทพเจ้าและบรรพบุรุษ ด้วยเหตุนี้เอง ขนมเปี๊ยะในสมัยโบราณจึงมักมีขนาดเล็ก เพื่อให้สะดวกในการพกพาและแบ่งปันกัน
ด้วยปัจจัยต่างๆ เหล่านี้ ขนมเปี๊ยะในสมัยโบราณจึงมีขนาดเล็กกว่าขนมเปี๊ยะในปัจจุบันมาก อย่างไรก็ตาม ขนมเปี๊ยะก็ยังคงเป็นขนมที่ได้รับความนิยมอย่างมากในสมัยโบราณ และได้รับความนิยมสืบทอดมาจนถึงปัจจุบัน
ในปัจจุบัน ขนมเปี๊ยะมีการพัฒนาไปมาก ทั้งในด้านขนาด รสชาติ และไส้ ขนมเปี๊ยะในปัจจุบันมีขนาดใหญ่ขึ้นกว่าขนมเปี๊ยะในสมัยโบราณมาก โดยมีขนาดประมาณเท่าฝ่ามือ และยังมีหลากหลายไส้ให้เลือกรับประทาน เช่น ไส้ถั่ว ไส้ฟัก ไส้ไข่เค็ม ไส้ทุเรียน ไส้เผือก เป็นต้น ขนมเปี๊ยะจึงเป็นขนมที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในทุกยุคทุกสมัย
นอกจากนี้ ขนมเปี๊ยะยังมีความเชื่อเกี่ยวกับ รูปทรงของขนมเปี๊ยะ โดยเชื่อว่ารูปทรงกลมของขนมเปี๊ยะหมายถึง ความกลมกลืน ความสมบูรณ์แบบ และความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของครอบครัว
ดังนั้น ขนมเปี๊ยะจึงเป็นขนมที่มีความหมายมงคลในทุกๆ ด้าน ไม่ว่าจะรับประทานเป็นของว่าง เป็นของหวาน หรือรับประทานเป็นของมงคลในงานมงคลต่างๆ ก็ล้วนเหมาะสมทั้งสิ้น